Software of Autodesk

Autodesk
Building Solutions
Autodesk Revit
สำนัก งานออกแบบชั้นนำ Skidmore, Owings & Merrill (SOM)
ได้ใช้ Revit ในการออกแบบ อาคาร “Freedom Tower”
เพื่อแทนที่ตึก World Trade Center เดิม

Real 3D design Revit
ทำงานในแบบสามมิติเป็นหลัก ทำให้การออกแบบมีความชัดเจน
ถูกต้อง รวดเร็ว ขจัดแบบที่ผิดพลาดจากการเขียนแบบสองมิติได้ทั้งหมด
เนื่องจากแบบ 2D ที่ฉายจาก 3D จะปรับตามการแก้ไขตลอดเวลาด้วยระบบ
Parametric ทำให้มีความสะดวก ยืดหยุ่น ในการสร้าง และปรับแก้ไขแบบ
เช่น การแก้ไขขนาดห้อง สามารถจับกำแพงยืดออก ฝ้าเพดานและพื้นก็จะตาม
ไปด้วย หรือจะใช้การใส่ระยะที่ยืดให้พอดีก็ได้

Integrated Visualization & Presentation Revit
สร้างภาพนำเสนอเหมือนจริง ทั้ง ภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว
จากแบบสามมิติได้ทันที โดยไม่ต้องส่งไปยังโปรแกรมอื่นอีก
ทำให้สะดวกในการนำเสนองานอย่างมาก สามารถใส่องค์ประกอบภาพต่างๆได้ครบ
ทั้งวัสดุ สี แสงเงา ภายนอกภายใน จำลองทิศแสงแดดตามพื้นที่และฤดูกาล
คนและต้นไม้เงาตกกระทบที่มีเงาตก กระทบเหมือนจริง

Active Information, Quatities take off
ด้วยระบบ “Building Information Modeling” ของ Revit ทำให้สามารถดึง
ข้อมูลพื้นที่ วัสดุ อุปกรณ์ จากแบบ 3D ได้ทันที เนื่องจากข้อมูลจะเกิดขึ้นพร้อม
การสร้างแบบ หากแบบ 3D มีการแก้ไข ข้อมูลจะปรับตามทันที ทำให้การนำเสนอ
มีครบทั้งสามด้าน คือ การออกแบบ นำเสนอ ประเมินราคา พร้อมใช้ตลอดเวลา
ลดงานซ้ำซ้อนให้หมดไป รวมทั้งได้แบบ สองมิติโดยอัตโนมัติ

AutoCAD fully compatible Revit
สามารถแปลงข้อมูลแบบให้กับ AutoCAD โดยตั้งการแยก Layer ได้ถูกต้อง
ทำให้ สามารถทำงานร่วมกับระบบเดิม หรือหน่วยงานภายนอกที่ใช้ AutoCAD
ได้เป็นอย่างดี หากมีข้อมูลแบบเดิม จาก AutoCAD สามารถนำมาประกอบกับแบบ
ใน Revit หรือใช้เป็นข้อมูลในการสร้าง 3D เพื่อประหยัดเวลา ไม่ต้อง ขึ้นใหม่ทั้งหมด
อีกทั้ง นำเข้า เฉพาะ Layer ที่ต้องการได้ด้วย

ใช้ภาษาไทยได้ 100% ในทุกส่วนการทำงาน
Revit สามารถใช้ภาษาไทยในทุกส่วนของการทำงานได้อย่างถูกต้อง
เช่น การตั้งชื่อวัตถุ ชั้นของอาคาร ชื่อรูปด้าน รูปตัด แบบขยาย ฯลฯ
เนื่องจากมีความเข้ากันกับ Microsoft Windows เป็นอย่างดี
การส่งข้อมูลแบบกลับไปยัง AutoCAD สามารถส่งข้อความภาษาไทย
เข้าไปได้อย่างถูกต้อง ทั้งรูปแบบและ ขนาดของตัวอักษร
พร้อมใช้งานต่อใน AutoCAD ได้ทันที




Autodesk Architectural Desktop (ADT)
     Autodesk Architectural Desktop
คือ โปรแกรม AutoCAD ที่ใช้สำหรับงานทางสถาปัตยกรรม ซึ่งมี AutoCAD เป็นพื้นฐาน
การทำงานด้วย ADT นั้นจะเป็นการ สร้างรูปอาคาร 3 มิติ โดยมีสัดส่วนที่ถูก
ต้องตามที่สถาปนิกออกแบบไว้ แล้วนำมาเปลี่ยนเป็นแบบ 2 มิติ เช่น ผังพื้น รูปด้าน รูปตัด
ของอาคารที่ ออกแบบนั้น ๆ แล้วทำการใส่รายละเอียดงานก่อสร้างเข้าไป
เพื่อให้แบบก่อสร้างนั้นมีความสมบูรณ์ จะเห็น ได้ว่าด้วยวิธีการทำงานด้วย ADT นั้น
จะทำให้การเขียนแบบเร็วขึ้นและถูกต้องกว่าเดิมมาก เพราะเนื่องจาก
ระบบการทำงานด้วยฐานข้อมูลสามมิติของ ADT นั้นเอง

       นอก จากความสามารถในด้านการเขียนแบบที่เหนือกว่า AutoCAD แล้ว 
ADT ยังเป็น เครื่องมือช่วย ในการทำงานของสถาปนิกทั้งระบบด้วย ตั้งแต่ 
การออกแบบรูปร่าง ( Concept Design ) ของอาคาร การ กำหนดรายละเอียดตำแหน่ง 
และ ลักษณะ ของประตู หน้าต่าง บันได หรือ หลังคา ซึ่งเราสามารถที่จะสร้าง 
ขึ้นมาเองหรือ ดึงรูปแบบต่าง ๆ มาจาก ฐานข้อมูลที่มีได้ เพื่อใส่รายละเอียดของแบบ 
(Detail Design) และด้วยการทำงานของระบบ ฐานข้อมูล 3 มิตินั้น ทำให้เราสามารถที่จะถอดประมาณราคา วัสดุต่างๆ ได้ โดยละเอียด เพื่อนำมาประเมินราคาค่าก่อสร้างได

       ADT ในเวอร์ชั่น ปัจจุบันนั้น ยังมีความสามารถ ที่แสดงผลลักษณะของวัสดุ 
(Material) ที่นำมาใช้ใน งานได้ทันทีขณะทำการออกแบบทำให้สถาปนิก หรือผู้ออกแบบ 
สามารถมองเห็นภาพของ อาคารที่กำลัง ออกแบบนั้นได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น และ ในการทำ Presentation ADT ยังแถม Software VIZ Render ซึ่งมี ความสามารถในการ Render 
ภาพ 3 มิติ และ การทำ Animation โดยที่รับโมเดล มาจาก ADT ได้เทียบเท่ากับ Software 
ชั้นนำในการ Presentation อย่าง Autodesk VIZ หรือ 3D Studio MAX เลยทีเดียว

อนึ่ง การทำงานที่ต่อเนื่องและเป็นระบบ ทำให้ได้ผลงานเร็วขึ้น และถูกต้องกว่าเดิม
ซึ่งเหมาะสำหรับ หน่วยงานที่ต้องการใช้งานในรูปแบบของ AutoCAD
แต่ประสิทธิภาพที่เหนือกว่า






Civil / Survey Solutions

Autodesk Land Desktop ( LDT )




คือ โปรแกรม AutoCAD ที่ใช้สำหรับงานสำรวจโยธา และออกแบบพื้นที่ ซึ่งมีโปรแกรม AutoCAD และ Mapping Module เป็นพื้นฐานของโปรแกรม โปรแกรม LDT พัฒนาขึ้นเพื่อแทนที่โปรแกรม AutoCAD เสมือนหนึ่งที่โปรแกรม AutoCAD ใช้แทนที่โต๊ะเขียนแบบในอดีต จากเดิมที่เราใช้ AutoCAD เขียนแบบ ทีละแผ่นในแบบ 2 มิติ จะเปลี่ยนมาเป็นการทำงานจากฐานข้อมูลสำรวจ แล้วนำมาคำนวณด้วย โปรแกรมเพื่อสร้างรูปต่างๆ ตามที่ผู้ใช้ต้องการเช่น การสร้างเส้น Contour, การวิเคราะห์พื้นที่ตาม Elevation, Slope, Watershed, การสร้าง Profile และ Cross Sections ตามที่ต้องการ จะเห็นได้ว่า ด้วยวิธีการใหม่นี้จะทำให้งานเขียนแบบเร็วขึ้นกว่าเดิมมาก สามารถทำงานโดยเริ่มจากการสร้าง Base Map จากข้อมูลภาพถ่ายทางอากาศ, Topographic map, Contour map โดยใช้ Mapping Module ควบคุมและแก้ไข หรือเริ่มจากข้อมูลสำรวจที่ Import เข้าสู่ Drawing และทำการศึกษา พื้นที่สำรวจโดยการสร้างพื้นผิว 3 มิติ (3D Terrain) เพื่อการ Generate เส้น Contour ด้วยค่า Interval ต่างๆ ตาม ที่ต้องการ สามารถทำการตรวจเช็คพื้นผิว เช่น Elevation,Slope, Watershed เมื่อได้ข้อมูลวิเคราะห์ตามที่ต้องการ แล้วก็สามารถดำเนินการออกแบบ เช่น การเตรียมพื้นที่เพื่อการก่อสร้าง (Site Design), การออกแบบแนวถนน (Roadway Plan Alignments) เมื่อทำการออกแบบแล้ว โปรแกรมจะให้ผลลัพธ์ต่างๆ เช่น ค่าคำนวณดินตัด/ดินถม, Cross Sections เป็นต้น

ท่านสามารถทำงานออกแบบต่อไป เพื่อให้ได้แบบสำหรับการก่อสร้างโดยใช้โปรแกรม
Autodesk Civil Design  มา ทำงานต่อในการสร้าง Profile ของแนว Alignment การออกแบบทางแนวดิ่ง (Vertical Alignment) ตลอดจนการออก Plot แบบอัตโนมัติ เช่น Plan / Profile sheet หรือ Cross Section sheet ตาม Format ที่ต้องการโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังสามารถออกแบบบ่อน้ำ (Pond Design) แบบ Manual & Automatic, การคำนวนทางอุทกศาสตร์ (Hydrology) ทำงานด้าน Storm Drain และทำ Slope & Grading สามารถคำนวนปริมาตรดินตัด - ดินถม

ในการทำงานกับข้อมูลสำรวจ ท่านสามารถใช้โปรแกรม
Autodesk Survey   ที่ จะนำข้อมูลสำรวจจากโลกภายนอกเข้าสู่คอมพิวเตอร์ ด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การพิมพ์ Key in ด้วยวิธี Manual, การถ่ายข้อมูลจาก กล้องสำรวจเข้าคอมพิวเตอร์ทางสาย RS232 หรือการ Download ผ่านโมเด็มจากระยะไกล โดยการส่งข้อมูลจะเป็นแบบ 2 ทิศทาง (Bi-directional) โปรแกรมจะนำข้อมูลสำรวจที่เป็นข้อมูลมุมและระยะมาคำนวณเป็น ค่าพิกัดและขึ้นรูปให้อัตโนมัติ เพื่อนำไปสร้าง Surface และสร้าง Contour ต่อไป

Manufacturig Solutions

Autodesk Inventor Professional ( AIP )
     

         AIP เป็นชุดโปรแกรม Autodesk Inventor ที่เพิ่มประสิทธิภาพทางด้านการ วิเคราะห์ความแข็งแรง    (FEA) ระบบการเดินสายไปในเครื่องจักรแบบ 3D และ การออกแบบระบบงานท่อ
  • Stress Analysis การวิเคราะห์ความแข็งแรงของชิ้นงานที่ออกแบบโดยใช้วิธี Finite Element Analysis
  • Cable & Harness การออกแบบและเดินระบบสายไฟ + ท่อร้อยสายในเครื่องจักร เป็นระบบ 3 มิติ
  • Tube & Pipe การออกแบบระบบท่อในเครื่องจักร และระบบท่ออื่น ๆ
  • IDF Import รับข้อมูลจากโปรแกรมที่ออกแบบ PCB เข้ามาเพื่อทำเป็น 3 มิติ ได้โดยอัตโนมัติ



AutoCAD Electriccal ( AEC )
        

        AutoCAD Electrical คือโปรแกรม AutoCAD สำหรับการออกแบบ / เขียนแบบวงจรไฟฟ้า เพื่อควบคุมการทำงานของเครื่องจักรและอุปกรณ์ เช่น วงจรไฟฟ้าที่ใช้ PLC วงจรควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้า หรือควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้าในระบบอัตโนมัติต่าง ๆ โดยมีข้อดีดังต่อไปนี้
  • มีสัญลักษณ์ และแบบของอุปกรณ์มาตรฐาน ช่วยให้เขียนแบบวงจรควบคุมเครื่องจักร ได้ถูก ต้องและรวดเร็ว
  • สร้างหมายเลขสายและอุปกรณ์อัตโนมัติ
  • สร้างจุดต่อ input / output ของ PLC โดยอัตโนมัติ
  • ออกแบบตู้ควบคุมได้ง่าย
  • มีข้อมูลอุปกรณ์มาตรฐาน และข้อมูลจากผู้ผลิตอุปกรณ์ต่าง ๆ
  • สร้างเอกสารที่เกี่ยวข้องกับแบบอัตโนมัติ
  • ใช้มาตรฐานแบบอเมริกัน (JIC) และ เยอรมัน (IEC)
  • มี Autodesk Vault เพื่อใช้ในการบริหารข้อมูลของ Drawing / CAD Model
Autodesk Inventor Series ( AIS )
     Autodesk Inventor เป็นโปรแกรม CAD ทางด้านงานออกแบบผลิตภัณฑ์ เครื่องจักรกล และยานยนต์ต่างๆ เช่น งานเขียนแบบ / ออกแบบชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องจักรกล เฟอร์นิเจอร์ เซรามิค Packaging, Mold & Die, Construction Equipment, งานแผ่นคลี่โลหะแผ่น
          Autodesk ได้นำเอาความสามารถของ Autocad, Autocad Mechanical, Mechanical Desktop และ Mechsoft มารวมกับเทคโนโลยีใหม่ของ Autodesk Inventor โดยมีวิธีการสร้าง/ ขึ้นรูปแบบ Solid และ Surface Modeling ซึ่งมีฟังก์ชั่นการทำงานดังต่อไปนี้
  • Assembly Modeling ประกอบชิ้นส่วน 3 มิติ ใช้หน่วยความจำน้อย Drawing สร้าง
  • Drawing 2 มิติ จาก Model 3 มิติ โดยอัตโนมัติ
  • Adaptive ใช้หาขนาดที่เหมาะสมของ Mechanical link และ ชิ้นส่วนที่ ประกอบกัน
  • Motion ใช้ทดสอบการเคลื่อนที่ ตรวจสอบหาชิ้นส่วนที่ขัดกัน สร้างภาพเคลื่อนไหว แสดงการทำงานของเครื่องจักร
  • Sheet Metal ออกแบบงานพับและแผ่นคลี่งานโลหะแผ่น
  • Presentation สร้างภาพเคลื่อนไหวแสดงการถอด / ประกอบชิ้นส่วน ของเครื่องจักร
  • iPART Catalog สร้างชิ้นส่วนมาตรฐานด้วยตนเองโดย
  • Link กับ MS Excel Library ชิ้นส่วนมาตรฐานงานออกแบบเครื่องกล
  • Design Accelerator การเลือกใช้ชิ้นส่วนเครื่องกลโดยมีคำนวณความ แข็งแรง เชิงวิศวกรรม เช่น การคำนวณความแข็งแรงของฟันเฟือง


แถมฟรี AutoCAD, AutoCAD Mechanical, Mechanical Desktop, Autodesk Vault, Autodesk Viewer, Autodesk DWF, Inventor Viewer
Autodesk Vault
Autodesk Vault เป็น โปรแกรมทางด้าน PDM (Practical Data Management) สำหรับการบริหารข้อมูลที่เป็น CAD Model / Drawing ซึ่งอยู่ในระหว่างการออกแบบ (Work-in-Process) มีการปรับปรุงแก้ไข ใช้ข้อมูลที่เป็นชิ้นส่วนมาตรฐานและชิ้นส่วนที่ออกแบบใหม่ ตลอดเวลา มีการทำงานร่วมกันหลายคน มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลร่วมกัน Autodesk Vault จะเข้าไปช่วยจดจำจำนวนครั้งในการแก้ไขและ ระบุว่าแบบไหนใหม่ / เก่า ป้องกันการ Save ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องกับข้อมูล ที่ถูกต้อง ช่วยในการ View ดู Model โดยไม่ต้องมี CAD Software บันทึกการปฏิบัติงานของวิศวกร ที่ออกแบบ หัวหน้างานสามารถตรวจ สอบการทำงานของทีมงาน ได้จาก Vault Manager


AutoCAD Mechanical ( ACM )
   

AutoCAD Mechanical คือ โปรแกรม AutoCAD สำหรับงานเขียนแบบ / ออกแบบ ทางวิศวกรรมเครื่องกล แบบ 2 มติ โดยได้เพิ่มฟังก์ชั่นพิเศษเพื่ออำนวยความสะดวกใน การเขียนแบบเครื่องกลโดยเฉพาะ เช่น
  • ข้อมูล ชิ้นส่วนมาตรฐานของงานเครื่องกล (Machinery Handbook) เช่น น๊อต สกรู แบริ่ง โซ่เฟืองโซ่ เฟือง สปริง และเหล็กรูปพรรณ ต่าง ๆ โดยมีครบ ทุกๆ มาตรฐาน เช่น ANSI, ISO, JIS และ DIN เป็นต้น
  • ออกแบบลูกเบี้ยว คำนวณหาความแข็งแรงของเพลา และหาความแข็งแรงของ ชิ้นงานแบบ 2D Finite Element
  • รับและแปลงข้อมูล IGES ได้
  • เปิดไฟล์ 3D ของ Inventor เพื่อมา Drawing อัตโนมัติใน AutoCAD Mechanical ได้อย่างง่าย
  • มี Autodesk Vault เพื่อใช้ในการบริหารข้อมูลของ Drawing / CAD Mode



Viewing and Online Collaboration Service
Viewing การเรียกดูข้อมูลที่สร้างขึ้นด้วยโปรแกรมของ Autodesk
1. Autodesk DWF Viewer: View and print published 2D and 3D DWF files
Autodesk DWF Viewer can be downloaded for free by anyone. The DWF viewer is available from http://www.autodesk.com/dwf .
2. Autodesk DWF Composer: View, print, markup, measure and aggregate 2D DWF files, view and print 3D DWF files
Available for purchase from authorized reseller or Autodesk. More information can be found at http://www.autodesk.com/dwfcomposer. The included license of Autodesk DWG Viewer is also subject to the same license agreement.
3. Autodesk Inventor View : View and print native Inventor parts, assemblies and drawings
Autodesk Inventor View is free to use by anyone. The viewer can also be shared with any number of people, inside or outside your company. You can download Autodesk Inventor View from http://www.autodesk.com/inventorview.
4. Autodesk DWG Viewer : View and print native DWG files, and publish them to DWF
Autodesk DWG Viewer is available on the Autodesk Vault CD or can be downloaded for free from www.autodesk.com/vault

Online Collaoration Service
Design Collaboration Service คือ การนำแบบและข้อมูลรายละเอียดทั้งหมดเก็บไว้บน Server ของ Autodesk ผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถใช้โปรแกรมของ Autodesk หรือ Web Browser เรียกใช้ข้อมูลได้ด้วยความเร็วสูง และข้อมูลที่ใหม่ล่าสุด จากแหล่งเดียวกัน ประกอบด้วย



Platform Tecnology

AutoCAD
โปรแกรมเขียนแบบที่นิยมใช้มากที่สุดในโลก ได้รับการพัฒนาล่าสุดเป็น AutoCAD 2005 ในจุดสำคัญคือ
  • เพิ่มความง่ายในการใช้งานด้วย Menu Tool Palettes ซึ่งปรับให้ใสเห็น Drawing ด้านหลังได้ทำให้ใช้พื้นที่จอในการทำงานได้เต็มที่
  • สนับสนุนการใช้สีแบบ True Color , Pantone และ RAL ทำให้สามารถสร้าง Presentation คุณภาพสูงจากภายใน AutoCAD ได้
  • การแจ้งเตือนเมื่อข้อมูลมีการแก้ไขทั้งภายใน และไฟล์ภายนอก ที่มีการอ้างถึงอยู่
  • Drawing Web Format (DWF) รุ่นใหม่เพิ่มประสิทธิภาพ และความปลอดภัยข้อมูลใน การใช้ Drawing ผ่าน Internet
  • การ ทำงานโดยใช้ข้อมูลร และ E-business เพิ่มประสิทธิภาพ การทำงานทางด้าน Internet Publish to Web, AutoCAD Hyperlinks, E-Transmit, Host Meeting บน Internet & Intranet และเทคโนโลยี I-Drop ในการ Drag & Drop ข้อมูลหรือ Objects ผ่าน Web รวมถึงพัฒนา Display Performance, Dual Processor Performance และ 3D PerformanceDrop ในการ Drag & Drop ข้อมูลหรือ Objects ผ่าน Web รวมถึงพัฒนา Display Performance, Dual Processor Performance และ 3D Performance

AutoCAD LT
AutoCAD LT โปรแกรมเขียนแบบ 2 มิติของ AutoCAD ในราคาประหยัด สำหรับท่าน ที่ต้องการทำงานด้านเขียนแบบ 2 มิติเพียงอย่างเดียว และไม่มีการเรียกใช้ AutoLISP

AutoCAD VIZ
Autodesk VIZ โปรแกรมสำหรับการทำภาพ Photorealistic Rendering และ ภาพเคลื่อนไหวเพื่อการนำเสนอ (Animation & Presentation) สำหรับงานทางด้าน Architectural Engineering & Construction (AEC) เช่น สามารถทำงานร่วมกับ Vertical Products อื่นๆ เช่น AutoCAD , Autodesk Architectural Desktop, Autodesk Land Desktop, Autodesk Mechanical Desktop เป็นต้น ได้อย่างต่อเนื่อง และสมบูรณ์แบบในการรับ-ส่ง และ Update ข้อมูล โปรแกรม ยังมี Feature สำหรับการสร้าง งานอาคารเพื่อการนำเสนอ เช่น ประตู หน้าต่าง บันได มีความสามารถในการ Render แสงแบบ Global Light Illumination 3D Studio MAX 3D Studio MAX 3D Studio MAX r 3D Studio MAX
อ้างอิง
ขอขอบคุณ :http://www.pesik.com

อีกหนึ่ง AutoLISP ที่ใช้วัดรวมความยาวของเส้น - bomlengths.lsp





bomlengths.lsp เขียนขึ้นโดย By Jimmy Bergmark ปี 2007 มีประโยชน์มากในการวัดระยะรวมของเส้นต่างๆ ที่วางพาดระเกระกะ เต็มไปหมดจนตาลาย ผมเคยใช้วัดรวมความยาวของเส้นแบ่ง Joint  ถนนมาก่อนครับ กับโครงการที่มีเส้นแบ่งพื้นถนนที่เยอะๆหลายแนว ที่หลายแนวเพราะวางเองกะมือก็เลยเยอะครับ

การรวมเส้นใน AutoCAD เพื่อประโยชน์ในการวัดความยาวทั้งหมด
ในการทำงานบางครั้งจำเป็นที่จะต้องวัดความยาวของเส้นที่เขียน
ซึ่งหากวัดความยาวของเส้นเพียงเส้นเดียวคงทำให้โดยการใช้คำสั่ง Distance
แล้วกำหนดจุด 2 จุด ก็จะได้ระยะทางหรือความยาวของเส้นแล้ว
หากเส้นที่เราต้องการที่จะวัดความยาวเกิดมีมากหล่ะ เอาแค่มากกว่า 50 เส้น
แค่คิดก็เหนื่อยแล้วครับ

การรวมเส้นจาก Line ธรรมดาให้เป็น Polyline หรือเส้นต่อเนื่องจึงเป็นประโยชน์ในการวัด
ความยาวของเส้นครับ ก็เป็นหนทางหนึ่ง
การใช้คำสั่ง PEDIT (Polyline Edit) แล้ว Joint เพื่อรวมเส้น หรือต่อเส้น ให้เป็นเส้นต่อเนื่อง
แล้วทำการวัดความยาวโดยใช้คำสั่ง List เราก็จะรู้ความยาวของเส้นได้

หากเส้นอยู่ต่างตำแหน่งและไม่สามารถ Joint เส้นให้เป็น Pline ได้ล่ะ


ลองโหลดไปใช้ดูได้ครับ เดิมทีจะต้องพิมพ์คำสั่งยาวไปหน่อย คือต้องพิมพ์ bomlengths ถึงจะใช้ได้ในแต่ละครั้ง ผมได้เพิ่ม (defun C:boo ()(load "boml") (c:bomlengths)) เข้าไปที่บรรทัดล่างสุด เพื่อให้ได้ใช้คำสั้งที่สั้นลงกระชับ ง่ายกว่าเดิมครับ เมื่อโหลดไฟล์แล้วพิมพ์คำสั่ง boo ก็ใช้คำสั่งได้ ไม่ต้องพิมพ์คำสั่งยาวๆแบบ bomlengths ครับแต่ใครชอบยาวๆ ก็ใช้ได้ครับ
ลอง ดาวน์โหลด BOML ไปใช้ดูกันนะครับ

แก้ไขลิ้งค์ให้ใหม่แล้วนะครับ

การสร้าง Attibute Block ไม่ยากอย่างที่คิด

          ผมใช้โปรแกรมมานานโดยตั้งแต่เริ่มใช้ก็ 2.14 โน้นแล้ว สิ่งที่ศึกษาเป็นอันดับต้นๆคือคำสั่งต่างๆ โดยจะไล่เรียงคำสั่งในแต่ละชุดออกมาใช้งาน และก็มีคำสั่งเขียนแผ่นป้าย Attibute นี่แหล่ะที่มีรายละเอียดชวนให้งง สับสนกับการใช้งานให้ถูกต้อง เพราะมันมีให้ตั้งค่าอะไรต่างๆมากมาย แต่ตอนนี้ผมว่าคำสั่งนี้ไม่ได้ยากเลย ถ้าเรารู้จักใช้มัน เพราะที่ใช้งานกันส่วนมากก็เพียงแค่เพื่อให้แก้ไขตัวอักษรที่อยู่ภายในเท่านั้น ส่วนไอ้ที่จะติดรายละเอียดลึกๆข้างใน เพื่อสกัดเอาค่าออกมาใช้นั้นช่างมีน้อยเสียเหลือเกิน เพราะฉะนั้นเราคงไม่ไปสนใจรายละเอียดที่มากมายขนาดนั้น วิธีการง่ายเลยที่ผมมักจะใช้เสมอตั้งแต่โบราณจนปัจจุบันต่างกันที่ Version 2.14 จะเป็น command line อย่างเดียวต้องตอบที่ละบรรทัด แต่เดี๋ยวนี้มี Dialogbox เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกขึ้นเยอะเลย จริงๆนะ

  1. พิมพ์คำสั่งที่ Command line : DDATTDEF (คำสั่งเต็มย่อมาจาก Dialog attibute define แปลกันตรงๆเลยก็คือ เปิดไดอะล็อกบล็อกเพื่อกำหนดแผ่นป้าย ตรงไปหรือเปล่าไม่รู้ อิอิ )
  2. จะปรากฎไออะล็อกบล็อกขึ้นมา ไม่ต้องไปสนใจอะไรมากกับค่าต่างๆ ให้ใช้ค่า Tag , Prompt , และ  Default  ก็เพียงพอ ไม่ต้องไปตั้งค่าใน Mode หากไม่ต้องการซ่อนมัน

   Tag - จะว่าไปก็คือแผ่นป้ายที่จะติดนี่แหล่ะ เพื่อให้รู้ว่าข้อความที่จะติดคืออะไร นึกอะไรไม่ออกก็พิมพ์ XXX ไปก่อน ( อย่าไปคิดอะไรมากนะ ไม่ใช่หนังติดเรท )
   Prompt - จริงๆแล้วก็คือตัวที่เราจะตั้งข้อมูลบอกที่เกี่ยวกับแผ่นป้าย เช่น Project name, Number, Work หรืออื่นที่สามารถระบุแผ่นป้ายได้ นึกอะไรไม่ออก พิมพ์ XXX: ไปครับ
  Default - อันนี้คือการกำหนดค่าคงที่ให้กับแผ่นป้าย ในกรณีที่เราใช้ค่าข้อความที่เหมือนกันมากในหลายชุด เราก็ใส่ค่าลงไปที่นี้ครับ เช่นประเภทงานที่เขียนเราอาจจะใส่เป็นโค้ดได้ : AR,ST,SN หรือ อาจจะใส่เป็นจำนวนรวมทั้งทั้งของงานก็ได้ เป็นตัวเลขไปเลย เช่น 69 , 96 (อย่าไปคิดมากนะครับ แค่ตัวอย่างเท่านั้นเอง) แต่ถ้ายังนึกอะไรไม่ออกก็พิมพ์ 18+ ไปก่อนครับ
เพียงเท่านี้เราก็คลิ๊ก OK ครับ
     3. โปรแกรมได้รับค่าแล้วก็จะให้เรากำหนดตำแหน่งของแผ่นป้ายว่าจะว่างมันที่ตรงไหน คลิ๊กไปเลยครับตรงไหนก่อนก็ได้ แล้วค่อยมา Move เคลื่อนมันทีหลัง
     4. แล้วเราก็ทำให้มันเป็น Block ครับจะเป็นภายนอก Wblock หรือภายใน Block ธรรมดาก็ได้ ให้ชื่อว่า X ก็แล้วกัน
     5.ใช้คำสั่ง Insert ดึงบล็อกชื่อ X เข้ามาใช้งานครับ จะมีไดอะล็อกบล็อกให้ใส่ค่าของแผ่นป้ายเท่านี้ก็เรียบร้อยครับ

ถ้าไม่มีไดอะล็อกบล็อกขึ้นมาให้แก้ไข ให้ตั้งค่า Setvar ดังนี้  พิมพ์ ATTDIA ที่ Command line : พิมพ์ค่าเป็น 1 เพื่อเปิดใช้งานครับ แล้วลอง Insert ดูอีกครั้ง (นั่นไง มาแล้วใช่ม่ะ)
คำสั่งแก้ไขแผ่นป้ายคือ : DDATTE ( คงจะมาจาก Dialog block attibute edit ครับ )



*การใช้คำสั่งเปิดไฟล์ Open จะใช้ Filedia เป็นค่าตัวแปรระบบควบคุมกล่องโต้ตอบ หากเป็นค่า 0 ก็จะไม่ขึ้นกล่องมาให้เลือกครับ*

ในส่วนของคุณสมบัติของตัวอักษรก็ใช้ Property object แก้ไขได้เหมือนข้อความทั่วไปครับ ง่ายกว่ากันเยอะ

ช่องทางการปรับแก้ไขข้อมูลในแผ่นป้าย Tag Attibute ตามด้านล่างนี้ครับ


Button

 Ribbon: Home tabBlock panelEdit Single Attribute

 Menu: ModifyObjectAttributeSingle

 Toolbar: Modify II
 Command entry: eattedit










เรียบร้อย

คลังบทความของบล็อก